ธุรกิจโดนอีก! “สำนักงาน กสทช.” ชี้กรณีกัมพูชา “ตัดเน็ต” สอย 14 บริษัทไทยสัญญาณหาย ลั่นพร้อมรับนโยบาย “รัฐบาล”


วันนี้ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า สำนักงาน กสทช.ในฐานะหน่วยงานกำกับพร้อมสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการแก้ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่อาจเกี่ยวข้องบริเวณชายแดน 

ซึ่งกรณีรัฐบาลกัมพูชาจะจัดหาอินเทอร์เน็ตเอง ต่อไปหากผู้ประกอบการโทรคมนาคมจะมีการเชื่อมต่อสัญญาณไปยังกัมพูชาจะต้องมีการให้รายละเอียดธุรกิจและบริการ เพื่อให้สำนักงาน กสทช. ตรวจสอบเข้มข้นขึ้น เป็นเรื่องดีในการตรวจสอบการใช้โครงข่ายในต่างประเทศ และน่าส่งผลดีต่อปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้มีปริมาณลดลง

นายไตรรัตน์ กล่าวว่า ได้รับรายงานในบางพื้นที่มีการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตบริเวณชายแดนจากฝั่งกัมพูชาแล้ว ซึ่งปัจจุบันผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมที่มีโครงข่ายเป็นของตนเองที่มีจุดเชื่อมต่อออกต่างประเทศบริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา มีทั้งสิ้น 14 บริษัท ได้แก่ 

1. บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน)

2.บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด

3. บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด

4. บริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต คอร์ปอเรชั่น จำกัด

5. บริษัท ยูไนเต็ด อินฟอร์เมชั่น ไฮเวย์ จำกัด

6. บริษัท เอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) 

7. บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เกทเวย์ จำกัด

8. บริษัท จัสเทล เน็ทเวิร์ค จำกัด

9. บริษัท ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น จำกัด

10. บริษัท ที.ซี.ซี.เทคโนโลยี จำกัด

11. บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน)

12. บริษัท แอล ดับเบิ้ลยู ที เอ็น จำกัด

13. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และ

14. บริษัท เคิร์ซ จำกัด

อย่างไรก็ดี ขณะนี้อยู่ระหว่างรอนโยบายจากรัฐบาลไทยว่าจะให้ดำเนินการในเรื่องใด โดยในส่วนของผู้ประกอบการโทรคมนาคมที่มีการขออนุญาตใช้โครงข่ายระหว่างประเทศ คือ การเช่าวงจรสื่อสารระหว่างประเทศความเร็วสูง เพื่อเชื่อมต่อระหว่างสาขาในไทยและต่างประเทศ (IPLC) 

“เช่น ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจสินค้าและบริการของไทยที่เข้าไปลงทุนในกัมพูชา ซึ่งสามารถขอใช้บริการกับผู้ให้บริการในกัมพูชาได้”นายไตรรัตน์ กล่าว

แหล่งข่าวจากแวดวงโทรคมนาคม เปิดเผยว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นส่งผลต่อโอเปอเรองเตอร์หลักโดยเฉพาะทรู เอไอเอส และเอ็นที ในส่วนของบริ๋ษัทมือถือรายหลัก ได้ทำการเชื่อมต่อสัญญาณโครงข่าย International Private Leased Circuit (IPLC) กับทางโอเปอเรเตอร์กัมพูชา ผ่านข้อตกลงธุรกิจ เพื่อให้บริการลูกค้าธุรกิจของทั้งโอเปอเรเตอร์ไทย และฝั่งกัมพูชา

ทั้งนี้ เมื่อทางฝั่งโอเปอเรเตอร์กัมพูชาตัดการเชื่อมต่อ IPLC ไป ทำให้ลูกค้าของทั้งทรูและเอไอเอสที่ดำเนินธุรกิจในกัมพูชาไม่สามารถใช้งานอย่างปกติ